เมื่อท่านมีความสนใจ หรือตัดสินใจ ที่ต้องการจะเจาะบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่บริเวณของท่าน เพื่อใช้ในกิจการบ้านเรือน สวน อุตสาหกรรม หอพัก ต่าง ๆ หลังจากที่ได้ตัดสินใจเลือกช่างที่จะทำการเจาะแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของการยื่นขออนุญาตเจาะและใช้น้ำบาดาลให้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกทิ้งงานหลังจากได้ชำระเงินไปแล้วขั้นตอนการขออนุญาตเจาะ/ใช้น้ำบาดาล
กรณีลูกค้าไม่สะดวกยื่นเอกสารเอง สามารถมอบอำนาจให้บริษัทรับเจาะน้ำบาดาลดำเนินการยื่นเอกสารขออนุญาตแทนได้
ขั้นตอนที่1
ติดต่อที่ทำการของพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ในเขตน้ำบาดาลโดยยื่นคำขอ ตามแบบ นบ.1 พร้อมแนบสำเนา
1) หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
2) หนังสือมอบอำนาจและสำเนาประจำตัวบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ไม่มายื่นด้วยตนเอง พร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท)
3) หนังสือใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (กรณีโรงงานอุตสาหกรรม)
4) หนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับใบอนุญาตฯ เป็นนิติบุคคล)
ขั้นตอนที่2
พนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่ออกใบรับคำขอและดำเนินการตรวจสอบเอกสาร ภายใน 1 วันทำการ หากเอกสารและหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน แจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบเพื่อยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม โดยผู้ขออนุญาตฯ ชำระค่าธรรมเนียมคำขอ 10 บาท
ขั้นตอนที่3
เอกสารหลักฐานครบถ้วนแล้วเสนอผู้มีอำนาจดำเนินการพิจารณาออกใบอนุญาต / ไม่ออกใบอนุญาต
กรณีได้รับอนุญาต
แจ้งผู้ขอรับใบอนุญาตให้มารับใบอนุญาตและชำระค่าธรรมเนียม
กรณีไม่ได้รับอนุญาต
แจ้งเหตุผลพร้อมทั้งสิทธิอุทธรณ์ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
หมายเหตุ :
กรณีการขอต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบแทน การขอโอน และการขอแก้ไขใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอพร้อมเอกสารหลักฐาน ณ ที่ทำการของพนักงานน้ำบาดาลประจำท้องที่เพื่อพิจารณาคำขอต่อไป
ระะเวลาการพิจารณา
1. พื้นที่ในเขตวิกฤตการณ์น้ำบาดาล
(รวม 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ)
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 2-3 นิ้ว
ปริมาณน้ำบาดาล : ไม่เกินวันละ 100 ลบ.ม.
ระยะเวลาดำเนินการ : 2 วันทำการ
ขนาดบ่อน้ำบาดาล : 4 นิ้วขึ้นไป
ปริมาณน้ำบาดาล : มากกว่าวันละ 100 ลบ.ม
ระยะเวลาดำเนินการ : 17 วันทำการ
ข้อดีของการเจาะน้ำบาดาล
การขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ประโยชน์ ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นยังสามารถนำน้ำบาดาลมาดื่มหรือนำไปอุปโภคและบริโภคได้แต่ต้องนำไปผ่านกระบวนการกรองก่อน เนื่องจากน้ำบาดาลอาจมีการเจือปนของแร่ธาตุ สารเคมี สิ่งสกปรกซากพืช ซากสัตว์ เชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่างๆ จึงไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
แหล่งข้อมูล
https://www.dgr.go.th/th/newsAll/124/3718